ส่วนสมองที่ใช้คิดวิเคราะห์เป็นภารกิจสำคัญที่ทำให้เราสามารถทำความเข้าใจและปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีนวัตกรรมอย่าง AI เข้ามาช่วยเหลือเรา แต่การปล่อยให้ AI คิดแทนอาจส่งผลให้สมองในส่วนที่เกี่ยวกับความคิดและการวิเคราะห์ทำงานน้อยลง
งานวิจัยจาก MIT พบว่าผู้ใช้ ChatGPT เป็นประจำกว่า 83% มีปัญหาจำเนื้อหาที่เพิ่งเขียนไม่ค่อยได้ และการเชื่อมต่อของเครือข่ายสมองลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนถึงภาวะที่เรียกว่า "สมองทำงานน้อยลง" หรือ "ภาวะสมองฝ่อ" จากการปล่อยให้ AI คิดแทน
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชี้ชัดว่า ภาวะนี้ไม่ใช่สมองเสื่อมในทางการแพทย์ แต่เป็นผลของการลดการมีส่วนร่วมทางปัญญา (Reduced Cognitive Engagement) เพราะเมื่อพึ่งพา AI มากเกินไป สมองส่วนที่ใช้คิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์จะไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่ ทำให้ทักษะเหล่านี้อาจลดลงได้เหมือนกับการใช้เครื่องคิดเลขทำให้ทักษะคำนวณในใจลดลง
ดังนั้น การใช้ AI ควรเป็นไปในลักษณะของ "ผู้ช่วยที่ชาญฉลาด" ที่ช่วยเสริมความคิด ไม่ใช่ให้ AI คิดแทนทั้งหมด เพื่อรักษาการทำงานของสมองส่วนสำคัญในการคิดวิเคราะห์และความจำให้คงอยู่
บทความที่เกี่ยวข้องและแนะนำ:
อย่างไรก็ตาม การใช้ AI ก็ไม่เพียงพอเพื่อให้สมองที่ใช้คิดวิเคราะห์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราควรจะใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริมในการคิดวิเคราะห์ ไม่ใช่ทำให้ AI คิดแทนเรา
อย่างไร็ตาม หากเรามุ่งมั่นที่จะรักษาการทำงานของสมองที่ใช้คิดวิเคราะห์ เราก็สามารถที่จะพัฒนาความสามารถทางความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ ที่ต้องการความคิดสร้างสรรค์และความเข้าใจที่ลึกซึ้ง
สรุปคือ การใช้ AI บ่อยอาจเสี่ยงต่อการทำให้สมองทำงานน้อยลงในบางคน แต่ถ้าใช้ให้เหมาะสมและไม่พึ่งพา AI จนเกินไป ก็ยังสามารถรักษาความสามารถทางความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ,
Decline;
Function;
Intelligence;
Factor;
Thinking;
Network;
magazineasp




