ตอนไหนควรกินยาพารา ? (Paracetamol)
ควรกินเมื่อมีอาการปวด หรือมีไข้: เช่น ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดฟัน หรือมีไข้สูง โดยควรใช้เฉพาะเมื่อจำเป็น ไม่ควรกินเพื่อป้องกันอาการดักไว้ล่วงหน้าหรือกินโดยไม่มีอาการผิดปกติ เพราะไม่ได้ผลและอาจเกิดผลข้างเคียง.
ขนาดและระยะเวลาการกิน: ผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด (500มก./เม็ด) ทุก 4-6 ชั่วโมง ไม่ควรกินเกิน 8 เม็ด/วัน (4,000มก./วัน) และไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 5 วันโดยไม่ปรึกษาแพทย์ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือไข้ไม่ลดในสามวันควรปรึกษาแพทย์.
ตอนไหนไม่ควรกินยาพารา
บทความที่เกี่ยวข้องและแนะนำ:
ไม่มีอาการผิดปกติ: ไม่ควรกินเพื่อดักไว้ก่อน (กันไข้/กันปวด) หรือกินโดยไม่มีอาการ เพราะไม่เกิดประสิทธิผลและเสี่ยงผลข้างเคียง เช่น ภาวะดื้อยา การได้รับยาเกินขนาด.
มีโรคประจำตัวบางชนิด: เช่น โรคตับ โรคไต ควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงพิษต่อตับและไต.
ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ: การกินยาพาราร่วมกับแอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยงตับพังและอันตรายต่อร่างกาย.
ผู้ที่แพ้พาราเซตามอล: หากเกิดอาการผิดปกติ เช่น ลมพิษ บวมที่ใบหน้าหรือริมฝีปาก ผื่นแดง ให้หยุดยาและพบแพทย์ทันที.
ข้อควรระวังสำหรับ "คนแก่" และบุคคลทั่วไป
คนสูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ: ควรรับประทานตามคำแนะนำแพทย์/เภสัชกรและแจ้งโรคประจำตัวก่อนเสมอ
ควรระวังการใช้ยาร่วมกับยาอื่นที่มีส่วนผสมของพาราเซตามอล เช่น ยาลดไข้ หรือยาแก้หวัด เพราะอาจได้รับยาเกินขนาดโดยไม่รู้ตัว.
ถ้าอาการปวดหรือไข้ไม่ดีขึ้นภายในเวลาที่เหมาะสม เช่น 3 วันสำหรับไข้ หรือ 5-10 วันสำหรับปวด: ให้พบแพทย์ เพราะอาจมีโรคที่ต้องรักษาเฉพาะทาง.
สรุปสำหรับผู้สูงอายุ:
กินเมื่อปวดหรือมีไข้เท่านั้น
ไม่ควรกินเพื่อดักไข้หรือปวด
ห้ามกินเกินขนาด และควรแจ้งโรคประจำตัวกับแพทย์/เภสัชกรก่อนใช้ยา
หยุดกินและพบแพทย์เมื่อมีอาการแพ้ หรือกินแล้วไม่หาย
การปฏิบัติเหล่านี้ช่วยให้การใช้ยาพาราเซตามอลปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ.
ข้อมูลจาก rama.mahidol,paolohospital
เรียบเรียงและค้นหาภาพประกอบโดย armooyza อธิภัทร ศิริแก้ว




