จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา ส่งผลให้มาตรการควบคุมการเดินทางข้ามแดนเข้มงวดขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะที่ด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นเส้นทางหลักสู่กาสิโนปอยเปต ส่งผลให้นักเสี่ยงดวงชาวไทยกว่า 90% ถูกห้ามไม่ให้ข้ามไปเล่นการพนันที่กาสิโนฝั่งปอยเปต โดยอนุญาตเฉพาะคนไทยที่เดินทางไปทำงานหรือค้าขายเท่านั้น และต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานพร้อมเอกสารยืนยันสถานที่ทำงานอย่างชัดเจน หากไม่มีจะไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามแดน

มาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ทั้ง 10 แห่งในฝั่งปอยเปต ซึ่งแต่เดิมนักพนันชาวไทยเป็นกลุ่มลูกค้าหลักถึงร้อยละ 90 ขณะนี้บ่อนแทบจะกลายเป็นสถานที่ร้างไร้นักพนัน ส่งผลให้ผู้บริหารบ่อนต้องทยอยเลิกจ้างพนักงานคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วง 4 วันที่ผ่านมา มีพนักงานบ่อนคนไทยเดินทางกลับประเทศไทยวันละไม่ต่ำกว่าพันคน รวมแล้วมีคนไทยที่ทำงานในบ่อนและค้าขายในฝั่งปอยเปตทยอยเดินทางกลับประเทศกว่า 2 หมื่นคนแล้ว

พนักงานบ่อนหลายคนให้ข้อมูลว่า บรรยากาศภายในกาสิโนเงียบเหงาอย่างมาก แทบไม่มีนักพนันเข้ามาใช้บริการ และบริษัทหานักพนันหลายแห่งต้องปิดตัวลง ขณะที่บ่อนเองเริ่มเตรียมเครื่องปั่นไฟสำรองไว้ เนื่องจากมีข่าวลือเรื่องการตัดกระแสไฟฟ้าจากฝั่งไทยเพื่อกดดันกัมพูชา

ทางด้านเจ้าหน้าที่ทหารไทยได้ตั้งจุดตรวจเข้มงวดบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้นักพนันชาวไทยเดินทางออกไปยังกาสิโนฝั่งปอยเปต โดยอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ไปทำงานและค้าขายเท่านั้น และจำกัดเวลาการเดินทางข้ามแดนในช่วง 08.00-16.00 น. เท่านั้น

ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นผลจากข้อพิพาทชายแดนและเหตุการณ์ปะทะบริเวณช่องบกในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทำให้รัฐบาลไทยต้องใช้มาตรการกดดันกัมพูชาอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมสถานการณ์และลดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบ่อนกาสิโนชายแดนที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจในพื้นที่

โดยกาสิโนปอยเปตที่ได้รับผลกระทบหนักประกอบด้วยบ่อนชื่อดัง 10 แห่ง ได้แก่ ฮอลิเดย์ พาเลช, แกรนด์ ไดม่อน, สตาร์ เวกัส, ปอยเปตรีสอร์ท, โกลด์เด้นคราวน์, ท็อปปิคคาน่า, ไดม่อนซิตี้, สตาร์โกลด์, โอเค วีไอพี และดีเอ็นเอ กาสิโน ซึ่งล้วนแต่เป็นแหล่งรายได้สำคัญของพื้นที่และมีพนักงานคนไทยจำนวนมาก

สถานการณ์นี้ยังส่งผลให้แรงงานไทยที่เคยทำงานในบ่อนกาสิโนต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในอาชีพ และต้องกลับมาหางานใหม่ในประเทศ ขณะที่บ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชายังคงต้องเผชิญกับความซบเซาและความไม่แน่นอนทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง