ข่าวด่วน พบขบวนยิงจรวด PHL-03 เคลื่อนเข้าใกล้ชายแดนไทย ด้านอุบลราชธานีสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาเริ่มตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง หลังมีรายงานจากพื้นที่แนวชายแดนด้านจังหวัดอุบลราชธานีว่า ตรวจพบการเคลื่อนย้ายของอาวุธหนักประเภท “ปืนยิงจรวดหลายลำกล้อง PHL-03” ของกองทัพกัมพูชา มาประจำที่บริเวณกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 87 (พัน ป. 87) จังหวัดพระวิหาร ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานีของไทย ประมาณ 90 กิโลเมตรเท่านั้นรายงานระบุว่า ขบวนรถบรรทุกอาวุธหนักดังกล่าวขยับเข้าพื้นที่ในช่วงกลางคืน โดยคาดว่าเป็นการเปลี่ยนตำแหน่งประจำการตามแผนปรับกำลังของฝั่งกัมพูชา แต่ด้วยชนิดของอาวุธที่มีพลังทำลายสูงถึงระดับจรวดหลายลำกล้อง ทำให้ฝ่ายไทยต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระยะยิงของ PHL-03 สามารถไกลได้ถึงเกือบ 150 กิโลเมตร ซึ่งหากนับจากจุดปัจจุบัน แนวชายแดนฝั่งไทยบางส่วนของจังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษ ก็อยู่ในระยะยิงพอดีชาวบ้านในพื้นที่ต่างรู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอน้ำยืน ที่อยู่ใกล้แนวเขตแดนมากที่สุด หลายคนบอกว่า “ไม่อยากเห็นความขัดแย้งกลับมาอีก” เพราะยังจำเหตุการณ์เมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ดี ตอนที่มีการปะทะกันบริเวณปราสาทพระวิหาร เสียงปืนใหญ่และจรวดในตอนนั้นทำให้หลายหมู่บ้านต้องอพยพหนีภัยกันทั้งคืนอย่างไรก็ตาม ล่าสุดหน่วยทหารไทยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ได้เพิ่มการลาดตระเวนและตรวจสอบข้อมูลจากทั้งทางบกและทางอากาศอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของกำลังฝั่งตรงข้าม และยืนยันว่าขณะนี้ประเทศไทยยังคงอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีสัญญาณเตือนภัยใด ๆ แต่ก็ได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยตลอดแนวชายแดนผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า PHL-03 หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “ปืนใหญ่จรวด 300 มม.” เป็นอาวุธผลิตจากประเทศจีน มีพลังทำลายสูงและสามารถยิงครอบคลุมพื้นที่กว้างได้ในครั้งเดียว โดยกัมพูชาได้รับอาวุธชนิดนี้จากการจัดซื้อเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา และถูกชี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมแสนยานุภาพทางทหารของภูมิภาคด้านชาวบ้านบางส่วนในฝั่งอุบลฯ เริ่มมีการพูดคุยกันในโซเชียลว่า อยากให้หน่วยงานรัฐออกมาชี้แจงและให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการ เพราะข่าวลือในโลกออนไลน์กำลังแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว บางโพสต์อ้างว่ามีการเคลื่อนกำลังเพิ่มเติมในฝั่งตรงข้าม ซึ่งทางกองทัพไทยยังไม่ยืนยันเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกับหน่วยงานของกัมพูชาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และย้ำว่าทั้งสองประเทศยังมีช่องทางการสื่อสารระหว่างกันปกติ ไม่มีสัญญาณว่าจะเกิดความขัดแย้งทางทหาร แต่ยอมรับว่าต้องเตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ชาวบ้านในบางหมู่บ้านใกล้ชายแดนได้เริ่มจัดเตรียมของใช้จำเป็น เผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เคยผ่านเหตุการณ์สู้รบเมื่อหลายปีก่อน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” เพราะแค่เสียงระเบิดในอดีตก็ฝังใจมาจนถึงทุกวันนี้นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงให้ความเห็นว่า การเคลื่อนย้าย PHL-03 ครั้งนี้อาจเป็นเพียงการสับเปลี่ยนกำลังหรือฝึกซ้อมปกติของฝั่งกัมพูชา แต่ก็ไม่ควรละเลย เพราะเป็นการขยับในจุดที่ใกล้ชายแดนมากขึ้น เมื่อเทียบกับระยะก่อนหน้านี้ที่มักจะอยู่ลึกเข้าไปในแดนกัมพูชากว่า 150 กิโลเมตร การปรับจุดประจำการให้เข้าใกล้ขึ้น ย่อมส่งผลด้านยุทธศาสตร์และจิตวิทยาสำหรับทั้งสองฝั่งทางด้านรัฐบาลไทย คาดว่าจะมีแถลงการณ์ชี้แจงต่อสื่อมวลชนในเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้ประชาชนสบายใจและไม่ตื่นตระหนกจนเกินไป โดยจะเน้นย้ำถึงการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ และการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนอย่างเต็มที่สถานการณ์ขณะนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับเฝ้าระวัง แม้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดที่บ่งชี้ถึงการเผชิญหน้าทางทหารโดยตรง แต่การตรวจพบอาวุธหนักเช่นนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ทั้งกองทัพและประชาชนในพื้นที่ต้องรีบจับตาดูอย่างใกล้ชิด

Advertisement Banner 3