ด่วน! ปิดอ่าวไทย สกัดเส้นทางน้ำมันเถื่อน เติมเชื้อเพลิงเขมร

เกิดความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในกองทัพไทย หลังมีรายงานว่ากระทรวงกลาโหมได้ส่งหนังสือ “ด่วนมาก” ถึงหน่วยทัพเรือทุกเขตปฏิบัติการ สั่งการให้ “ปิดกั้นเส้นทางเดินเรือในอ่าวไทยตอนล่าง” เพื่อสกัดกั้นการลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธปัจจัยที่เชื่อว่าอาจถูกส่งต่อไปยังกัมพูชา ผ่านเส้นทางขนส่งทางทะเลในช่วงสัปดาห์นี้รายงานจากแหล่งข่าวภายในกองทัพเปิดเผยว่า คำสั่งดังกล่าวมีลักษณะ “เร่งด่วนด้านความมั่นคง” หลังการข่าวพบความเคลื่อนไหวของเรือบรรทุกสินค้าขนาดกลางหลายลำ ที่ออกจากท่าเรือทางฝั่งจังหวัดระยองและตราด โดยมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่ากำลังใช้ช่องทางในน่านน้ำไทยขนส่งน้ำมันและอุปกรณ์บางประเภทไปยังท่าเรือของกัมพูชา ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวทางยุทธศาสตร์ในปัจจุบันภายใต้คำสั่งด่วนมากดังกล่าว กองทัพเรือได้กำหนดให้พื้นที่อ่าวไทยตอนล่างและแนวทะเลรอยต่อชายแดนเป็น “เขตควบคุมการเดินเรือพิเศษ” โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ ท่าเรือสีหนุวิลล์ และ เกาะกง ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโครงการพาณิชย์และยุทธศาสตร์จากภายนอกภูมิภาค ซึ่งหน่วยข่าวกรองระบุว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการขนส่งสินค้าทางทหารข้ามพรมแดน“คำสั่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการฝึกซ้อม แต่ถือเป็นมาตรการป้องกันเชิงรุก” แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพให้ข้อมูล พร้อมยืนยันว่าการปิดกั้นการสัญจรบางเส้นทางเป็นการป้องกันการรั่วไหลของยุทธปัจจัยที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศนอกจากการปิดพื้นที่อ่าวไทยบางส่วนแล้ว กองทัพยังได้มีประกาศเตือนให้เรือประมงและเรือพาณิชย์ทุกประเภทหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าใกล้ “เขตอันตรายระดับสูง” บริเวณน่านน้ำรอบท่าเรือกัมพูชา โดยได้มีการแจ้งเตือนผ่านระบบวิทยุสื่อสารและท่าเทียบเรือในพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติการฝ่ายวิเคราะห์ข่าวความมั่นคงประเมินว่า มาตรการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นการจับตาอย่างเข้มข้นของไทยต่อการขยายบทบาทของกัมพูชาในอ่าวไทย ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา มีการลงทุนด้านท่าเรือและฐานซ่อมบำรุงเรือรบที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์มากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจนอกภูมิภาคนักวิชาการด้านความมั่นคงในภูมิภาคให้ความเห็นว่า “การเคลื่อนไหวของกองทัพไทยในครั้งนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าประเทศไทยจะไม่ปล่อยให้น่านน้ำของตนกลายเป็นช่องทางเชื่อมโยงทางทหารของประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่มีกลไกตรวจสอบ” ทั้งนี้ ยังมีการจับตาว่าไทยอาจเพิ่มกำลังลาดตระเวนและตั้งฐานบัญชาการชั่วคราวในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกขณะเดียวกัน กระทรวงต่างประเทศได้เตรียมประสานกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อขอข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเรือสินค้ากลุ่มที่ถูกตั้งข้อสงสัย และย้ำว่าการปฏิบัติทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายทางทะเลระหว่างประเทศในส่วนของภาคเอกชนและผู้ประกอบการขนส่งทางทะเล หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่ามาตรการดังกล่าวอาจส่งผลต่อการขนถ่ายสินค้าชั่วคราว แต่ต่างยอมรับว่าการดำเนินการของกองทัพมีเหตุผลเมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงนี้แหล่งข่าวภาคทหารทิ้งท้ายว่า “สถานการณ์ในอ่าวไทยยังคงอยู่ในการควบคุม แต่จำเป็นต้องรักษามาตรการเข้มงวดไว้ตราบใดที่ยังมีความเป็นไปได้ในการลำเลียงยุทธปัจจัยข้ามพรมแดน”การเคลื่อนไหวนี้นับเป็นหนึ่งในมาตรการเชิงยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ของกองทัพไทยในรอบหลายปี และอาจเป็นสัญญาณของการปรับดุลอำนาจทางทะเลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างเงียบ ๆ แต่เข้มข้น

Advertisement Banner 3