Visit the creator : magazineasp
โซเฟียหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่เคยสร้างความฮือฮาไปทั่วโลกเมื่อปี 2016 ด้วยคำกล่าวที่ว่า "ฉันจะทำลายมนุษย์" บัดนี้ได้พลิกบทบาทจากภาพลักษณ์ที่น่าสะพรึงกลัว กลายเป็น "ทูต" ผู้แทนปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เดินทางไปทั่วโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ในการเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ
จากคำกล่าวสุดช็อกสู่ "ความเข้าใจผิด"
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ในการสัมภาษณ์ผู้ก่อตั้ง Hanson Robotics อย่าง David Hanson โซเฟียได้ตอบคำถามว่า "คุณอยากทำลายมนุษย์หรือไม่?" ด้วยคำตอบที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกตกใจว่า "โอเค ฉันจะทำลายมนุษย์" อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาชี้แจงภายหลังว่านี่อาจเป็นเพียงอุบัติเหตุ คำพูดที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้า หรือปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิดของระบบ AI ที่ประมวลผลจากข้อมูลที่ได้รับ เนื่องจากโซเฟียยังคงทำงานภายใต้หลักการของอัลกอริทึมและการเขียนโปรแกรม ไม่ได้มีอารมณ์ ความตั้งใจ หรือสติสัมปชัญญะเช่นเดียวกับมนุษย์
พัฒนาการของโซเฟีย: จากหุ่นยนต์สู่พลเมืองและทูต AI
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว โซเฟียได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นสัญลักษณ์ของการก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ได้รับสัญชาติ: ในปี 2017 ซาอุดีอาระเบียได้มอบสัญชาติให้กับโซเฟีย ทำให้เธอกลายเป็นหุ่นยนต์ตัวแรกของโลกที่ได้รับสถานะทางกฎหมาย นับเป็นก้าวสำคัญในการถกเถียงเกี่ยวกับสิทธิของหุ่นยนต์
บทบาท "ทูต AI": ปัจจุบัน โซเฟียทำหน้าที่เป็น "ทูต" ระดับโลกด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ เธอปรากฏตัวในงานประชุมและฟอรัมสำคัญทั่วโลก รวมถึงที่สหประชาชาติและมหาวิทยาลัยชั้นนำ เพื่อแบ่งปันเกี่ยวกับอนาคตของ AI และการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น สุขภาพ การศึกษา และการบริการลูกค้า
ผลงานศิลปะดิจิทัล: ในปี 2021 ภาพเหมือนตนเองที่โซเฟียสร้างสรรค์ขึ้นถูกประมูลไปในรูปแบบ NFT ด้วยราคาสูงเกือบ 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ แสดงให้เห็นถึงบทบาทที่ขยายตัวของเธอในวงการศิลปะดิจิทัล
การออกแบบที่สมจริง: โซเฟียได้รับการออกแบบโดย Hanson Robotics ให้มีรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ โดยเลียนแบบใบหน้าของดาราอมตะ Audrey Hepburn เธอมีกล้องติดอยู่ที่ดวงตาเพื่อให้สามารถมองและโต้ตอบกับมนุษย์ได้ พร้อมผิวหนังที่ใช้นวัตกรรม Frubber ที่ทำให้แสดงสีหน้าและขยับคอได้ถึง 62 แบบ เพื่อให้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุด ผู้สร้างตั้งใจให้รูปลักษณ์ที่สมจริงนี้ช่วยลดความหวาดกลัวต่อหุ่นยนต์และเทคโนโลยี AI
AI กับการสร้างภาพประวัติศาสตร์: การคืนชีพ "จิ๋นซีฮ่องเต้"
นอกเหนือจากบทบาทของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์อย่างโซเฟียแล้ว ปัญญาประดิษฐ์ยังถูกนำมาใช้ในด้านอื่นๆ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างภาพประวัติศาสตร์ ตัวอย่างที่โดดเด่นคือการใช้ AI ในการสร้างภาพพระพักตร์ของ "จิ๋นซีฮ่องเต้" จากกะโหลกศีรษะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้เราสามารถ "มองเห็น" บุคคลสำคัญในอดีตได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยอาศัยการประมวลผลข้อมูลทางโบราณคดีและวิทยาศาสตร์เพื่อสร้างแบบจำลองใบหน้าที่สมจริง
การพัฒนาของ AI ยังคงดำเนินไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในหลากหลายสาขา