เรือผีลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์

คืนที่ทะเลแอตแลนติกปกคลุมด้วยไอหมอก เวลาประมาณปลายปี 1872 เรือเดินสมุทรขนาดกลาง “แมรี เซเลสต์” ออกเดินทางจากนิวยอร์กมุ่งหน้าสู่เจนัว ประเทศอิตาลี ทุกอย่างดูเป็นไปตามปกติ กัปตัน เบนจามิน บริกส์ และลูกเรือรวมถึงครอบครัวล่องไปท่ามกลางผืนน้ำกว้างใหญ่ หัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง

แต่ไม่ถึงสองสัปดาห์หลังจากออกเดินทาง มีเรือชื่อ “เดอไกรเตีย” พบ “แมรี เซเลสต์” ลอยละล่องอยู่กลางทะเล เรือดูเหมือนปกติยกเว้นสิ่งเดียว คือ “ไร้ผู้คนแม้แต่คนเดียว” ของใช้และเสบียงวางเรียงรายราวกับทุกคนเพิ่งเดินจากไป ข้าวของกระจัดกระจายบ้างแต่ไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือความเสียหาย

พิกัด (เรือไม้โบรารณ ) : https://c.lazada.co.th/t/c.XW8Ztp

เรือชวนสะพรึง เสียงคลื่นกระทบลำเรือกับความเงียบงัน สายลมเย็นวูบวาบเดินผ่านห้องพัก ช่างบรรยายสภาพเหมือนมือที่มองไม่เห็นสัมผัสข้าวของ ทุกคนหายไป ราวกับ… “ระเหยหายไปจากโลกใบนี้” โดยไม่ทิ้งร่องรอยไม่มีวี่แววการโจรกรรม ไม่มีอุปกรณ์ฉุกเฉินหาย ไม่มีหลักฐานใดช่วยไขความจริง ผู้พบเรือต่างหวาดผวา สับสน และขัดแย้ง ทั้งตกใจและสงสัยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจนสร้างตำนานและ “ขนลุก” ให้กับทุกคนที่เข้ามาใกล้เรือลำนี้

พิกัด (กล้องส่องทางไกลวินเทจ Bushnell Sportview สำหรับแคมป์ ชมวิว ผจญภัย) : https://s.shopee.co.th/9AGNJTM8uT

ตลอดหลายทศวรรษ มีทฤษฎีมากมายตั้งแต่แก๊สมีเทนใต้ทะเลระเบิด กะลาสีเจ็บป่วยจิตหลอน พายุร้าย ไปจนถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ไม่มีคำตอบชัดเจนเรือแมรี เซเลสต์กลายเป็น “เรือผี” ที่โลกต้องจดจำ เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจว่า โลกยังมีมุมมืดที่มนุษย์ไม่อาจอธิบายได้

พิกัด (โมเดลเรือยอชท์ ) : https://s.shopee.co.th/3LIaLLiIMe

แม้ทุกสิ่งดูมีเหตุผลและกฎเกณฑ์ แต่เหตุการณ์แมรี เซเลสต์พิสูจน์ว่า “สิ่งที่ไม่อาจเห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง” และการตั้งคำถามต่อสิ่งลึกลับ อาจนำไปสู่การค้นพบใหม่ที่เปลี่ยนความเข้าใจของมนุษย์ทั้งโลก

แหล่งอ้างอิง