Hawkeye Strike สหรัฐฯ ไล่ล่า ISIS ถล่มด่วน 70 แห่ง

ค่ำคืนนี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ ช่วงประมาณ 21.40 น.) แหล่งข่าวจากกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ หรือ CENTCOM รายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามอนุมัติให้เปิดฉาก “ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดแห่งปี” ภายใต้ชื่อรหัส “Operation Hawkeye Strike” หรือแปลเป็นบ้านๆ ได้ว่า “สายตาเหยี่ยวจู่โจม” เพื่อถล่มเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้าย ISIS กว่า 70 แห่งทั่วภาคกลางของซีเรีย

เสียงเครื่องบินขับไล่จำนวนมากทะยานขึ้นจากฐานทัพในตะวันออกกลาง ปล่อยประกายไฟแหวกท้องฟ้ายามค่ำราวกับพายุเหล็กกำลังยกพลบุก ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง หลายพื้นที่ของซีเรียก็เริ่มมีเสียงระเบิดดังสนั่นสะเทือนฟ้าดิน แหล่งข่าวระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ ใช้ระเบิดนำวิถีแม่นยำสูง (Precision Munitions) กว่าร้อยลูก ในการรัวถล่มคลังอาวุธ ฐานบัญชาการ และแหล่งซ่อนตัวของ ISIS

ภาพประกอบบทความ: Hawkeye Strike สหรัฐฯ ไล่ล่า ISIS ถล่มด่วน 70 แห่ง

เหตุผลที่สหรัฐฯ ต้องลงมือ

เบื้องหลังของปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล แต่เป็น “การเอาคืน” จากเหตุการณ์ซุ่มโจมตีเมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่เมือง พัลไมรา (Palmyra) ซึ่งทำให้ทหาร National Guard จากรัฐไอโอวาสหรัฐฯ เสียชีวิต 2 นาย และล่ามชาวอเมริกันอีก 1 ราย ถูกสังหารในระหว่างทำภารกิจช่วยเหลือหน่วยพันธมิตรซีเรีย

เหตุการณ์นั้นสร้างความไม่พอใจอย่างหนักในสหรัฐฯ เพราะถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์โจมตีที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือน กองทัพและหน่วยข่าวกรองเชื่อว่า เบื้องหลังคือกลุ่ม ISIS ที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ทะเลทรายใจกลางซีเรีย ซึ่งแม้จะอ่อนกำลังลงหลังถูกถล่มมาหลายปี แต่ก็ยังมีเครือข่ายที่พร้อมจุดชนวนความรุนแรงได้ตลอดเวลา

Advertisement Banner 3
ภาพประกอบบทความ: Hawkeye Strike สหรัฐฯ ไล่ล่า ISIS ถล่มด่วน 70 แห่ง

ดังนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จึงอนุมัติทันทีให้ CENTCOM เปิดปฏิบัติการตอบโต้ครั้งใหญ่ เพื่อ “ส่งสัญญาณเตือน” ถึงกลุ่มก่อการร้ายทั่วโลกว่า สหรัฐฯ จะไม่ยอมให้ใครลุกขึ้นมาคุกคามพลเมืองและทหารของตนอีกต่อไป